🌿ผู้คนในสมัยโบราณเชื่อกันว่า
เทอร์ควอยซ์(Turquoise)เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ นำโชค นำความมั่งคั่งร่ำรวยมาสู่ผู้สวมใส่ บอกเหตุล่วงหน้าและยังเป็นเครื่องรางป้องกันภัยได้
ชาวอียิปต์และชาวแอซเท็ก(Aztec) ชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของเปรูเชื่อว่า
เทอควอยซ์เป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง ชาวแอซเท็กใช้เทอร์ควอยซ์ประดับหน้ากากที่ใช้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีเรียกฝน
ชาวมุสลิมใช้เทอร์ควอยซ์มาประดับคู่กับ
ไข่มุกบนหมวกโพกศีรษะเพื่อคุ้มครองตนจากสิ่งชั่วร้าย
อเมริกันอินเดียนเชื่อว่าเทอร์ควอยซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งท้องฟ้าเป็นดังลมหายใจ
และนำมาซึ่งจิตวิญญาณของท้องฟ้าและท้องทะเล ทำให้ยิงธนูได้แม่นและยังเชื่อกันว่า
เทอร์ควอยซ์ที่ดีที่สุดนั้นถูกซ่อนไว้ในดินแดนที่อยู่สุดปลายสายรุ้ง
ส่วนผู้ที่ขี่ม้าในสมัยก่อนนิยมพกอัญมณีชนิดนี้ติดตัวไว้เพื่อป้องกันการตกม้า
ความเชื่อดังกล่าวได้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
พบว่าผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องบิน หรืออาชีพอื่นที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมักนิยมพกเทอร์ควอยซ์หรือสวมใส่กัน
หากผู้สวมใส่กำลังตกอยู่ในอันตราย
เทอร์ควอยซ์จะเปลี่ยนสี
แต่จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
พบว่าเทอร์ควอยซ์เปลี่ยนสีไปเนื่องจากอิทธิพลของแสงเครื่องสำอาง ฝุ่น
ค่าphของผิวผู้สวมใส่ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้น
สีฟ้าของเทอร์ควอยซ์ช่วยคลายเครียด
ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
และเทอร์ควอยซ์ยังเป็นอัญมณีที่มีคุณสมบัติในด้านความรัก ความเมตตา มิตรภาพอีกด้วย
นอกจากนี้เทอร์ควอยซ์มีทองแดงเป็นส่วนประกอบจึงมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ดี
ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ อาการปวดสะโพก
#turquoise
#หินขี้นกการะเวก
ขอบคุณบทความจากเพจ jankapore