พีระมิด พลังงานและความลับของจักรวาล
ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังของพีระมิด กล่าวไว้ว่า....
เหตุทีเป็นเช่นนั้นอาจเนื่องมาจาก รูปทรงของมันสามารถขยายคลื่นสัญญาณได้ โดยมีตัวเราเป็นผู้ส่งคลื่นคล้ายเครื่องรับและเครื่องส่งโดยพีระมิดพยายามสร้างแรงสั่นสะเทือนเคลื่อนย้ายอะตอมที่เป็นส่วนเกินออกไปคงให้เหลือไว้เฉพาะอะตอมต้นกำเนิดเท่านั้น ธาตุของคลื่นผู้ส่งและมุมเวกเตอร์ของปิรามิด สร้างรูปแบบของพลังงานให้เกิดความถี่สั่นสะเทือนและขยายให้แรงขึ้น ใหญ่ขึ้นได้และจัดเรียงโมเลกุลใหม่ เช่นโมเลกุลของธาตุน้ำทรงแปดเหลี่ยมให้เป็นแบบแถวเดี่ยวอีกครั้ง...
ความมหัศจรรย์จากการทดลอง พลังพีระมิด
ความมหัศจรรย์จากการทดลอง กับพลังพีระมิดในสหรัฐมีการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะครับจนกระทั่งมีการคั้งศูนย์วิจัยเกี่ยวกับปิรามิดขึ้น
ดร. โบริส เวอร์น (Dr. Boris Verm) ผู้อำนวยการโครงการวิจัย ได้ทำการทดลองโดยใช้ปิรามิดจำลอง ความสูงเพียง 10 นิ้ว ขึ้นแรก เขาใช้ไข่ดิบวางไว้ในปิรามิดจำลอง และหลังจากนั้นก็คือ ไข่ได้เกิดการแข็งตัวและเหือดแห้งภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ เท่านั้นเอง ครับ และปรากฏว่าเชื้อราต่าง ๆ ที่มักจะเกิดตามเปลือกไข่ไม่เติบโตขึ้นเลยและหากนำไปไว้นอกปิรามิด แล้วเชื้อราจะเติบโตอย่างรวดเร็วครับการทดลองอันนี้ ได้ทดลองซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง และใช้วัสดุอื่น ๆ เช่น ดอกไม้ผลไม้ ผัก และสัตว์ต่าง ๆ เช่นปลา และแมลงต่าง ๆ
อีกท่านหนึ่งคือเวอร์น คาเมรอน นักวิจัยชาวคาลิฟอร์เนีย ทำการทดลองกับเนื้อหมูกับปิรามิดจำลอง โดยทดลองกับเนื้อหมู ประมาณ 2 ออนซ์ (56.6 กรัม)และไขมันดิบ อีก 1 ออนซ์ (28.3 กรัม) และวางไว้ในปิรามิดจำลองอีกแล้วและที่ที่จะทำให้มันเน่าเปื่อยได้เร็วที่สุด เขานำปิรามิดจำลองนี้ ไปแว้ในห้องน้ำครับ ต่อมาเขาก็นำไปไว้ในห้องที่มีอากาศร้อน และห้องที่มีไอน้ำมากเพื่อให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
ในการเฝ้าดู แล้ว เขาสังเกต ว่าวันที่ 3 จะมีกลิ่นเหม็น จากเนื้อหมู คล้าย ๆ กับจะมีการเน่าเปื่อยเกิดขึ้น แต่พอ 6 วัน กลิ่นนั้น ก็หายไป และเนื้อหมู แห่งโดยไม่มีการเน่าเปื่อยเลย ครับเป็นเวลาหลายเดือน เนื้อหมูก็ไม่เน่าเปื่อย นำสามารถยังนำมาทานได้อีก
คาเมรอนยังได้ทดลองกับแตงโมอีก ก็วางไว้ในปิรามิดจำลองเช่นเดิมไว้ในห้องน้ำอีกครั้งครับ จากนั้นเพียง 2-3 วัน ปรากฏว่า แตงโม จะเหือดแห้งแต่ยังสามารถทานได้และไม่เน่าเปื่อยครับ นอกจากนั้นเขาก็ยังทดลองกับ น้ำนมหรือของเหลวอื่น ๆ อีกมากมายครับ
เขาพยายามค้นหาสาเหตุเขาจึงได้ประดิษฐ์ เครื่องวัดแสงรังสี (Aurameter) ขึ้น ใช้สำหรับวัดรังสีสนามพลังของวัตถุ เขากล่าวว่า พลังงานที่แผ่ขยายจากยอดปิรามิด จำลองอันเล็กๆ มีลักษณะคล้ายกับโครงสร้างของหินชั้นบนของปิรามิดซึ่งมีสนามพลังแผ่กระจายลงมาถึงฐาน ลงมาเป็นแนวตั้ง
พลังปิรามิด แห่งอียิปต์ เซอร์ ดับบลิว ซีแมนส์
อีกหนึ่งความสามารถของปิรามิดในการแสดงปฏิกิริยาเหมือนเครื่องสะสมไฟฟ้าสถิตครับเซอร์ ดับบลิว ซีแมนส์นักประดิษฐ์ค้นคว้า ชาวอังกฤษ เขาเคยไปสัมผัสกับความลึกลับของมหาปิรามิดในอียิปต์มา ในขณะที่เขายืนอยู่ภายใน ห้องเก็บศพอียิปต์ตรงกับยอดของปิรามิด เขาพบว่าเมื่อใดที่เขาชูมือทั้งสองข้างขึ้นและกางนิ้วออกโสตประสาทของเขาได้ยินเสียงกังวาลเบา ๆ จากเบื้องบน ของปิรามิดแต่ที่น่าตกใจอีกแล้วเขายกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วชี้ตรงไปยังยอดของปิรามิดเขามีความรู้สึกคล้าย ๆกับ ถูกเข็มจิ้มที่ปลายนิ้ว ครับ ต่อมา เขาก็ ยกขวดไวน์ ที่ติดตั้งดื่มแก้กระหาย ก็เกิดอาการกระตุกบริเวณปากขวด ขณะแตะริมฝีปากและเขาใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่เปียกชื้นพันรอบ ๆ ขวด ปรากฏว่ามีการอาการกระตุก เกิดจากไฟฟ้าและขวดไวน์นั้นก็กลายเป็นเครื่องสะสมไฟฟ้าที่เรียกว่า ลีเดน จาร์ (Leyden Jar)
ลีเดน จาร์ เป็นเครื่องทดลองสะสมไฟฟ้ายุคแรกที่ประกอบด้วยขวดแก้วมีแผ่นดีบุกไว้ทั้งภายในและภายนอกแผ่นดีบุกที่อยู่ข้างในติดกับแท่งโลหะ มีปลายเป็นปุ่มโลหะ
นักฟิสิกส์ หลายคนเชื่อว่าปิรามิดไม่เพียงแต่จะเป็นสิ่งสะสมพลังงานเท่านั้นครับมันยังสามารถกระจายพลังอำนาจต่าง ๆ ออกไปอีกด้วย จากวัตถุ ใด ๆก็ตามที่มีการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่แห่งพลังงาน นั้น ๆก็จะมีความสามารถเกิดปฏิกิริยาทางฟิสิกส์ขึ้นมาครับ คลื่นความถี่นี้จะปรับกับระหับความถี่ของธรรมชาติ เช่นพลังงานแม่เหล็กโลก พลังงานคอสมิกจนกระทั่งก่อนให้เกิดพลังงานชนิดใหม่ขึ้นมา ครับ น่าทึ่งจริง ๆ
ความลึกลับของพลังในมหาปิรามิดยังได้รับการค้นพบกันอีกแม้แต่ผู้ที่ไม่มีความสันทัดอะไรทั้งสิ้นในเรื่องวิทยาศาสตร์และไม่เคยแม้แต่จะไปเยือนอียิปต์เพื่อมองมหาปิรามิดนี้ด้วยตนเองเสียด้วยซ้ำมีคนหลายคนที่อ้างว่าพวกตนได้ใช้วัสดุต่างๆ เช่นกระดาษแข็ง พลาสติค หรือแม้แต่แผ่นไม้อัดมาสร้างจำลองส่วนให้เท่ากับสัดส่วนของมหาปิรามิดแห่งนี้และสามารถ ลับใบมีดโกนที่เก็บไว้ภายในให้คมกริบอย่างเดิมแม้ว่าจะใช้มันไปมากมายหลายครั้งก่อนแล้วก็ตามนอกจากนั้นภายในปิรามิดย่อส่วนของพวกตนนี้ยังเป็นที่ที่สามารถเก็บอาหารสดไว้ได้นานกว่าปกติหากใครเข้าไปนั่งอยู่ข้างในแล้วก็จะรู้สึกว่าอารมณ์สงบเยือกเย็นอย่างประหลาด และเข้าสมาธิได้ง่ายด้วย อีกทั้งยังช่วยให้สามารถมองเห็นความเป็นไปของตนเองในอนาคตได้
ในสมัยคริสตทศวรรษที่ 1850 ชายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อโบวีส์เป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปทัศนาจรมหาปิรามิดแห่งกูฟู และก็ได้เข้าไปในห้องลับของฟาโรห์ภายในปิรามิดเขาได้เขี่ยพบของอย่างหนึ่งท่ามกลางขยะที่พวกนักทัศนาจรโยนทิ้งเอาไว้ตามทางเดินในปิรามิดมันคือซากแมวตายตัวหนึ่งซึ่งเชื่อว่าถูกทำเป็นมัมมี่ไว้ช้านานแล้วและยังคงสภาพสดๆ เหมือนกับตายไปเมื่อไม่นานนี้เองเมื่อเขาเดินทางกลับไปถึงที่บ้านเขาได้ลองสร้างปิรามิดย่อส่วนจากมหาปิรามิดขึ้นมาอันหนึ่งบ้างและพบว่าหากเอาของสดๆเก็บไว้ในปิรามิดของเขาแล้วของสดนั้นจะอยู่นานกว่าปกติ
นานหนึ่งร้อยปีต่อมาวิศวกรชาวเชโกสโลวะเกียนายหนึ่งคือ คาเรล ดูร์บอล์ ได้ไปอ่านพบรายงานของโบวีส์เข้าตอนนั้นประเทศหลังม่านเหล็กอย่างเชคโกสโลวะเกียขาดแคลนใบมีดโกนที่ใช้โกนหนวดโกนเครากันอย่างยิ่ง ดูร์บอลเกิดสงกาขึ้นมาว่าพลังที่ว่ามีอยู่ในปิรามิดนี้จะแปลงมาใช้กับสารพวกที่เป็นโลหะได้หรือไม่และเขา ก็พบว่าคมใบมีดโกนที่เขาวางไว้ในปิรามิดที่สร้างขึ้นตามสัดส่วนของมหาปิรา มิดนั้นสามารถช่วยให้ใบมีดโกนที่ใช้แล้วนั่นคมกริบขึ้นมาใหม่ได้อีกแถมยังไม่มีสนิมอีกด้วยเมื่อเขาหอบปิรามิดจำลองของเขาไปขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์กับทางการในกรุงปรากเมื่อปี 2502 นี่เอง ทางการตอนแรกไม่ยอมเชื่อแต่เมื่อหัวหน้าวิศวกรฝ่ายตรวจสอบนำเจ้าปิรามิดย่อส่วนของเขาไปทดลองดูก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นได้จริง ดูบอล์ ได้รับลิขสิทธิ์ทะเบียนเครื่องลับใบมีดโกน ของเขาหมายเลขที่ 91304
ทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้นเทคนิคดังกล่าวยังไม่มีใครอธิบายได้เงื่อนงำเกี่ยวกับเคล็ดของใบมีดโกนเท่าที่รู้ๆกันมาแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจากประสบการณ์ของพวกทหารที่ทำสงครามในยุโรปก็คือหากทิ้งใบมีดโกนเอาไว้ให้อาบแสงจันทร์ตอนคืนเดือนหงายแล้ว ใบมีดจะทื่อลื่อกันว่าเป็นพลังที่ดวงจันทร์ส่งมาถึงโลกที่สามารถลบความคมของใบมีดโกนได้แต่ทำไมปิรามิดจึงทำให้ใบมีดนั้นมันกลับคมขึ้นมาใหม่นี่ซิที่จนวันนี้ก็ยังไม่มีใครตอบถูก
อย่างไรก็ตามก็มีกฏเกณฑ์ตายตัวและ เคร่งครัดที่จะให้ปิรามิดจะสำแดงพลังลึกลับออกมาดังกล่าวคือสัดส่วนความยาว ของฐานกับความยาวขาฐานถึงยอดของปิรามิดนั้นจะต้องเท่ากับ 15.7 ต่อ 14.94 และจะต้องตั้งปิรามิดให้เข้ากับแนวของเข็มทิศ คมใบมีดโกนที่จะลับจะต้องอยู่เหนือจากพื้นฐานในสัดส่วนเดียวกับความกว้างและสูงคือ 3.33 หน่วยและต้องหันทิศใบมีด ให้ตรงกับแนวตะวันออก – ตะวันตก
แม้จะไม่มีใครเข้าใจการทำงานของตัวปิรามิดแต่คนนับพันๆคนทั่วโลกพร้อมจะสบถสาบานได้ว่าตนลองทำแล้วมันเกิดขึ้นได้จริง
ที่มา : baansuanpyramid.com